ขึ้นชื่อว่ารักแร้ แน่นอนสาว ๆ หลาย ๆ คน ก็คงรำคาญขนใช่มั้ยคะ ยิ่งถอนก็ยิ่งขึ้นเยอะ แถมทรมานอีก กว่าจะถอนเสร็จ ยกแขนจนเมื่อย หนีบหนังตัวเองบ้างอะไรบ้าง หลังจากถอนก็เป็นหนังไก่เข้าไปอีก หรือเวลาโกนก็แบบ 2 วันก็ขึ้นเป็นตอแล้ว เป็นตอไม่พอแถมคันอีกค่ะ เห้อออออ เหนื่อยใจจริง ๆ เหนื่อยถอนไม่พอ แถมรักแร้ดำอีก นี่แหละค่ะคือปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงอย่างเรา ๆ มันกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเม ไม่กล้าที่จะใส่เสื้อขาแบบแขนกุด หรือโชว์วงแขนสักเท่าไหร่ เสื้อผ้าที่มีก็ต้องแบบมีแขนปิดถึงจะมั่นใจ แต่อย่างว่าแหละ พอยุคสมัยมันเปลี่ยนการแต่งกายก็เปลี่ยน เมก็อยากจะใส่เสื้อผ้าที่โชว์วงแขนได้อย่างมั่นใจเหมือนกับผู้หญิงทั่วไป ปัญหานี้เลยกลายเป็นสิ่งที่ให้เมเลือกที่จะลองทำเลเซอร์ขนรักแร้ เมื่อพูดถึงคลินิกที่เลเซอร์ขนรักแร้ แน่นอนว่าสมัยนี้พุดขึ้นยิ่งกว่าดอกเห็ดอีก แต่จะมีสักกี่ที่ ที่เราจะสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะคุ้มค่าแก่การลงทุนในครั้งนี้ เพราะคอร์สนึงไม่ใช่เล่นๆนะคะ เมลองเลือกดูหลายที่มาก ดูว่าแต่ละที่ว่าขั้นตอนการทำเขาเป็นอย่างไร บรรยากาศภาพรวมดูโอเคมั้ย สะอาดมั้ย ดูปลอดภัยมั้ย มีความเป็นส่วนตัวแค่ไหน เพราะการที่ผู้หญิงจะยกแขนให้ใครก็ไม่รู้ดูก็อายแหละ เมเลยเลือกที่ แกรนด์ เอสต้า คลินิก และเมก็ได้ทำการ Inbox มาสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เบื้องต้นก่อน เขาก็แนะนำว่าก่อนที่เราจะเข้ามาทำการเลเซอร์เนี่ย ต้องงดการถอน การโกน และแว๊กซ์ ประมาณ 3-4 สัปดาห์ก่อน
หลังจากที่เรายิงเลเซอร์เสร็จ เขาก็จะเช็ดทำความสะอาด และต่อด้วยขั้นตอนต่อไปคือการผลักวิตามินลงสู่ผิวหนัง ก็จะมีความรู้สึกสบาย เหมือนมีคนมานวดรักแร้เบา ๆ โดยข้อดีของการผลักวิตามินคือการช่วยลดรอยดำ ลอยแผล และยังเป็นการกระตุ้นคอลาเจนให้กับผิว และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และยังเป็นการช่วยลดหนังไก่อีกด้วย
ขั้นตอนสุดท้ายก็จะเป็นการมาร์ครักแร้ เขาก็จะทำการมาร์คทิ้งไว้ 20 นาทีเพื่อเป็นการให้มาร์คเซ็ทตัว และทำการลอกออกเป็นแผ่น ๆ ได้ง่ายค่ะ การมาร์จะช่วยในการทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นนั่นเองหลังจากการที่เมทำการเลเซอร์รักแร้ครั้งแรกก็เห็นผลได้อย่างชัดเจนเลย ว่ารักแร้เมเนี่ย ดูเนียน ขาว และกระจ่างใสขึ้น หลังจากที่เมทำมาได้สักพักเมก็รู้ว่าขนรักแร้แทบจะไม่งอกขึ้นมาเลย เมพูดได้คำเดียวเลยค่ะ ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ
หลังจากที่เราทำเสร็จหมดแล้ว ก็จะมีการทาครีมบำรุงให้อีกด้วย